ปัญหาคุณภาพไฟฟ้า

บทความโดย บริษัท เพาเวอร์ ควอลิตี้ ทีม จำกัด

โดยทั่วไปอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรอุตสาหกรรม ต้องการแรงดันไฟฟ้าที่มีขนาดและความถี่คงที่ และประกอบด้วยความถี่เพียงความถี่เดียว เพื่อการทำงานที่ไม่ผิดพลาด เกิดกำลังงานสูญเสียตํ่า และเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ในทางปฏิบัติแหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้าและระบบส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าจะมีค่าอิมพีแดนซ์ปรากฏอยู่ ตลอดจนมีผู้ใช้ไฟฟ้าร่วมกันในระบบหลายรายและมีชนิดของโหลดที่นำมาต่อใช้งานเป็นจำนวนมากจึงเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาคุณภาพไฟฟ้าตามมา โดยผลกระทบจากปัญหาคุณภาพไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อผู้เกี่ยวข้องทุกส่วนในระบบไฟฟ้า ตั้งแต่การผลิตกระแสไฟฟ้า ระบบส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าและตัวผู้ใช้ไฟฟ้าเอง ปัญหาคุณภาพไฟฟ้าที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดเวลาคือปัญหารูปคลื่นเพี้ยน (Waveform distortion) ซึ่งเกิดจากฮาร์มอนิก (Harmonic) และมีสาเหตุมาจากโหลดที่เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Loads)

ในช่วงเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมาผลจากการพัฒนาอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ เครื่องจักรอุตสาหกรรมให้มีขีดความสามารถในการผลิตและความเร็วในการทำงานสูงขึ้น ตลอดจนอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์พลังงานเพื่อการลดการใช้พลังงาน ในด้านบวกผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมให้ความสนใจและนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในหน่วยงานเป็นจำนวนมาก เช่น สวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย (SMPS) สำหรับระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม อินเวอเตอร์ควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์ (VSD) เตาอินดัคชั่น (Induction Heating) บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับหลอดไฟฟ้าแสงสว่างชนิดต่างๆ และอื่นๆ แต่ในอีกด้านหนึ่งการพัฒนาอุปกรณ์ เครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์พลังงานเหล่านี้ได้สร้างมลภาวะที่เรียกว่ากระแสฮาร์มอนิก(Harmonic Current) ให้กับระบบไฟฟ้าของทั้งหน่วยงานที่นำอุปกรณ์เครื่องจักรเหล่านี้มาใช้งานเองและกับผู้ใช้ไฟฟ้าส่วนรวมในขณะเดียวกันด้วย อันเป็นส่วนนึงของที่มาของปัญหาคุณภาพไฟฟ้านั่นเอง

บทความโดย บริษัท เพาเวอร์ ควอลิตี้ ทีม จำกัด

สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือนำไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท ฯ